Tuesday, November 26, 2013

อัตตาของมนุษย์กับความมั่งคั่ง(2)

ต่อจากตอนที่แล้ว ผมขอออกมาสารภาพก่อนเลยว่าในตอนที่ผมเด็กกว่านี้(อายุประมาณ 22-23 ปี) ผมเป็นคนที่ถือว่าสิ่งที่ตัวเองคิดหรือทำคือสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ ผมชอบสอนน้องสาวผมอยู่บ่อยๆว่าทำไมไม่อ่านหนังสือนี้ละ  ทำไมไม่ลงทุนบ้างล่ะ ทำไมไม่แบ่งเวลาบ้างล่ะ ลักษณะคำพูดเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง จริงอยู่สิ่งที่เราสอนเป็นสิ่งที่ถูกต้องในความคิดของเราแต่ของคนอื่นมันไม่ใช่ เราเคี่ยวเข็ญไปก็เปล่าประโยชน์ครับ แนะนำว่าให้ใช้กุศโลบายอื่นที่สร้างสรรค์กว่านี้สอนดีกว่า ผมขอยกตัวอย่างต่อไปเลยละกันสำหรับตัวอย่างของบุคคลที่มีอัตตา

นาย C กุไม่เข้าใจเจ้านายเลยว่ะ ไปให้ไอ A มันทำงานนี้ได้ไงวะ กุว่า A มันไม่ค่อยขยันและไม่ค่อยฉลาดพออ่ะ
นาย D : เห้ย แต่ว่าไอ A มันนอบน้อมและก็ซื่อสัตย์ดีนะ กุว่าก็เหมาะแล้วแหละ
นาย C : กุว่างานนี้ยากเกินสำหรับ A ว่ะ ขนาดกูกูว่ายังทำไม่ได้เลยอ่ะงานนี้

อันนี้เป็นตัวอย่างของคนที่มีสมาธิหรือว่าปัญญาไม่เพียงพอในการจับอัตตาที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวภายใน ลักษณะแบบนี้ก็เหมือนกับคนหลงตัวเองนั้นแหละครับ การหลงตัวเองเป็นสิ่งที่เกิดกับมนุษย์ทุกคนเพียงแต่เราจะจับมันติดหรือปล่าว? ผมขอยกตัวอย่างต่อไปที่แสดงถึงการหลงตัวเองอีกรูปแบบหนึ่ง

นาย X : ผมเซ็งมากเลยครับ ผมไม่เข้าใจว่าผมทำงานทันและทำงานดี ทำงานหนักกว่าคนอื่น แต่ปรากฏว่าผมไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง แต่ไอ มันได้เลื่อนตำแหน่งทั้งที่วันๆมันไม่ทำอะไรเลย เอาแต่ประจบเจ้านาย

ตัวอย่างนี้เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์เงินเดือนมากมาย นาย X คนนี้เป็นคนหลงตัวเอง หลงไปว่าตัวเองเก่ง ตัวเองทำดี แต่ถามหน่อยเหอะ จริงเหรอ? ทำงานดีจริงเหรอ? ถ้าดีจริงทำไมไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีล่ะ เลิกหลงตัวเองแล้วไปทำงานให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีจริงเถอะครับ ดีกว่ามานั่งตีโพยดีพาย

สรุปเลยละกัน ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าผมต้องการให้ความรู้เพื่อสร้างความมั่งคั่งไม่ใช่เพื่อการลงทุนอย่างเดียว คนเราอาจจะไม่ต้องลงทุนก็ยังมั่งคั่งได้โดยการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ตัวอย่างข้างบนเป็นลักษณะทางความคิดพื้นฐานในการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หลังจากนั้นความมั่งคั่งก็จะตามมาเอง

No comments:

Post a Comment