ธรรมะ..การลงทุน..ความมั่งคั่ง
เรื่องราวหลักที่เกี่ยวข้องกับธรรมะ...นำมาผูกกับจิตวิทยาทางการลงทุน และผูกกับจิตวิทยาด้านการพัฒนาตนเองในด้าน "ใดก็ตาม" นำไปสู่ความมั่งคั่งในระยะยาวท้ายที่สุด
Thursday, June 9, 2016
ทำธุรกิจให้สำเร็จตั้งแต่แรกๆที่เริ่มต้น
คนเรากว่าจะสำเร็จ ส่วนใหญ่มีแผลเยอะครับ
ผมว่าคนหลายคนอยากรวยแต่ไม่เสียสละตัวเองให้มากพอ
คนที่รวยที่เราเห็น...โดยส่วนใหญ่ช่วงเริ่มต้นธุรกิจนี่เขียมมาก..ไม่มีมาฟุ่มเฟือยเยอะๆ...
หรือถึงจะฟุ่มเฟือยก็ฟุ่มให้คนอื่น..จ่ายให้คนอื่นเยอะกว่าจ่ายให้ตัวเอง...
ตัวเองพอลับหลังคนอื่นก็ต้องทนคอยกินข้างแกง ก๋วยเตี๋ยวข้างถนน...
แต่พอกับแฟน กับเพื่อนนี่จ่ายเต็มที่
แต่สังคมเรา..คนส่วนใหญ่จ่ายเพื่อความสุขตัวเองเยอะมาก...
แต่พอจะจ่ายให้คนอื่นหรือช่วยเหลือคนอื่นนี่ควักยากมาก...
หรือถ้าควักช่วยใครก็โพสต์ให้คนอื่นรู้หน่อยว่าเราเป็นคนดีที่ช่วยเหลือชาวบ้านนะ...
แต่คนที่ทำดีแล้วโพสต์ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าเป็นคนดีไม่จริงนะครับ...
คนแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน การโพสต์มันอาจเป็น Lifestyle เค้า ไม่ใช่โพสต์เพื่ออวด
ผมเชื่อว่าใครมีจิตใจดีจริงๆแบบที่ไม่หวังให้คนอื่นมาตอบแทน...
ยังไงก็จะมีชีวิตที่มีความสุขแท้จริง...
อาจมีเศร้าหรือเจ็บหรือทุกข์บ้างแต่โดยรวมก็จะมีความสุขกว่าคนอื่น...
เปิดโอกาสตัวเองให้มองเห็นความดีของเพื่อนๆแต่ละคน...
มันอาจเป็นทางลัดที่จะทำให้คนอื่นเห็นความดีของเราเร็วขึ้น
กว่าคนอื่นจะรู้ว่าเราเป็นคนดีบางทีพิสูจน์ตัวเองเป็นปีๆ....
แต่อดทนไว้ครับ...
ให้ดีต่อไป สักวันยังไงคนอื่นจะเห็นแน่นอน
#ศรัทธาไว้ฮะ
Saturday, May 14, 2016
เงินที่ออกจากกระเป๋า...คือค่าใช้จ่ายหรือการลงทุน
คำนิยามของการลงทุนของผมหมายรวมไปถึง ทุกการให้ (ไม่เฉพาะเงิน) ที่พอให้ไปแล้วสร้างทรัพย์สินอะไรบางอย่างให้กับเรา....ขอเน้นว่าต้องให้แล้วเกิด "ทรัพย์สิน"
ทำไมถึงบอกว่าคนเราสามารถลงทุนได้ตลอดเวลาแม้ไม่มีเงิน....คนเราสามารถให้อะไรคนอื่นได้เสมอ....ถึงไม่มีเงินก็อาจให้ "ใจ" "เกียรติ์" "เวลาช่วยผู้คนทำงานส่วนกลางที่ไม่ได้เงิน" เป็นต้น
แต่ในบทความนี้คงเน้นเฉพาะเรื่องการ "ให้เงิน" ซะมากกว่า
คนบางคนลืมไปและจำกัดหนทางในการลงทุนอย่างไม่รู้ตัว....คนชอบซื้อหุ้นก็ซื้อแต่หุ้น...คนชอบซื้อที่ดินก็ซื้อแต่ที่ดิน
บางครั้งเราจ่ายเงินออกไปกับค่าศัลยกรรมเสริมสวย...ผลลัพธ์คือเราก็จะสวยขึ้นจนได้แฟนรวยๆ อันนี้ก็นับว่าลงทุน
บางครั้งเราจ่ายเงินออกไปเพื่อซื้อใจคน...และเมื่อมีคนเยอะแยะติดตัวเรา...คนเหล่านี้แหละที่อาจเป็นกำลังสำคัญต่อการสร้างเงินในอนาคตก็เป็นได้
สัญญาณที่บอกว่าเราลงทุนน้อยเกินไป...คงจะไม่โผล่มาให้เห็นชัดเจนนักในวันที่เรายังหนุ่มๆสาวๆ...แต่พอเราแก่จะเห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนที่ลงทุนกับคนที่ไม่ลงทุน โดยดูจาก Passive Income ที่ได้
คนแก่บางคนพอเกษียณแล้วก็มีรายได้น้อยลงมากหรือเกือบแทบไม่มี...ผิดกับคนแก่ที่มีเงินเข้ามาเรื่อยๆ เพราะลงทุนตลอดเวลาก่อนจะเกษียณ
หนังสือ "พ่อรวยสอนลูก" ถึงพูดว่า " คนรวยใช้เวลาแทบจะตลอดเวลาทำงานเพื่อสร้างทรัพย์สิน แต่คนจนใช้เวลาแทบจะตลอดเวลาทำงานเพื่อสร้างเงิน"
คนที่ทำงานกับบริษัท ก็มักใช้เวลาทำงานทั้งหมดคิดค้นสร้างทรัพย์สินให้บังเกิดขึ้น และพอเกิดทรัพย์สินนั้นขึ้นมาก็ตกเป็นของบริษัทที่เราสังกัดอยู่
มีการลงทุนดีๆ อีกเยอะมากบนโลกถ้าเราเปิดใจ ไม่ปิดโอกาส
คนฉลาดเยอะแยะส่วนใหญ่บนโลกนี้ที่ไม่ได้มีชีวิตดีๆอย่างที่ใจลึกๆต้องการ
เอาจริงๆ โอกาสที่ทำให้ชีวิตดีๆมันผ่านมาเสมอ...อยู่ที่ว่าเราแกล้งโง่ไม่คิดอะไรให้มันเยอะมากพอรึปล่าว....เพราะถ้าเราโง่มากพอก็จะคว้ามันเอาไว้แบบไม่ต้องคิดเยอะเกินไป...
...เท่านั้นเอง
Monday, May 2, 2016
ความสามารถในการรักษาสัญญามีผลต่อ "ความสำเร็จของชีวิต"
เพราะถ้าผมโจมตี มันก็เหมือนว่าผมชมตัวเองว่ารักษาสัญญาเก่งนักเก่งหนา ทั้งที่ตัวผมเองผิดสัญญาอยู่บ่อยครั้งมาก
หน้าที่ของคนคนนึงคือพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นอยู่เสมอ แต่หน้าที่เราไม่ใช่ไปคาดหวังให้คนอื่นเป็นคนดี....เหตุผลคือเมื่อไหร่ที่มีความคาดหวังเกิดขึ้นในตัว เมื่อนั้นเราจะไม่มีความสุข
พวกเราทำเต็มที่ในเหตุที่จะรวย ส่วนผลที่จะรวยหรือไม่ก็อย่าคาดหวังเยอะ....เพราะพอคาดหวังแล้วไม่ได้ดังหวัง เมื่อนั้นเราจะหมดแรงที่จะพยายามต่อเป็นรอบที่ 2
สัญญาณที่แสดงถึงการผิดสัญญาก็เช่น
*บอกว่าจะกลับกี่โมงแต่ดันกลับช้ากว่านั้น
*บอกว่าจะวนกลับมาซื้อแล้วสุดท้ายไม่กลับมาและไม่แม้แต่จะวนกลับไปขอโทษคนที่เราสัญญากับเค้าไว้
*บอกว่านัดตอนนี้แต่เรากลับมาสายไม่ตรงตามที่นัดไว้
*บอกว่าจะทำยอดขายให้ได้เท่านี้แต่พอถึงเวลาจริงกลับกลายเป็นทำไม่ได้เพราะเราไม่พยายามพอ
*บอกว่าเราจะทำงานจริงจังแล้วหลังจากวันนี้เป็นต้นไป...แต่พอวันพรุ่งนี้ก็เหลวไหลเหมือนเดิม
เรื่องพวกนี้ผมทำมาหมดแล้วครับ ผมเลยเข้าใจว่า มันก็ "ไม่แปลก" ที่เราจะโดนเหมือนกัน
ผมว่าพอเราโดนผิดสัญญา แล้วสิ่งที่ควรทำคืออย่าก่นด่า....ทุกครั้งที่ก่นด่ามันหมายความว่าเราไม่มีสติรู้ตัวด้วยซ้ำว่าเราเองก็ผิดสัญญาอยู่บ่อยๆ (ยกหางตัวเองทางอ้อม)
ย้ำอีกครั้งครับว่า ผมไม่โกรธคนที่ผิดสัญญากับผมอย่างใจจริงครับ ผมเองแค่เรียนรู้และจำเอาไว้ เพื่อบริการแต่ละคนให้แตกต่างกัน คนที่รักษาสัญญากับเราสูงมาก เราจะเห็นในพระคุณอันนั้นมากกว่าคนอื่นก็แค่นั้นเอง แต่คนที่ไม่รักษาสัญญา เราก็แค่รอเค้าได้ว่าจะถึงสักวันนึงที่เค้าพัฒนาตัวเองเป็น "ยอดคน" ที่รักษาสัญญาอย่างโหดๆ
#ใครมันจะเป็นยอดคนตั้งแต่เกิดกันล่ะ เราก็ต้องให้ Second chance ผู้อื่นเสมอแล้วโลกก็จะน่าอยู่จากข้างในใจเรา
#ขอบคุณการเรียนรู้จากการทำอาชีพที่ปรึกษาการเงิน เพราะมันทำให้เราเป็นคนที่มีคุณภาพขึ้นเยอะมาก :)
Sunday, April 17, 2016
ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก
Monday, March 28, 2016
ความรู้ทางการลงทุนที่ได้มาหลังจากเรียน "การวางแผนการเงิน"
คนส่วนใหญ่ เราเองก็รู้ๆอยู่ว่าส่วนใหญ่จะเจ๊งหุ้นหรือไม่ก็ได้กำไรไม่เท่าไหร่หรอก (ในระยะยาวนะครับ)(หมายถึงถ้าเล่นหุ้นตลอด 20-30 ปี) แต่เราเองก็มักจะหลุดหลงคิดว่าเราเดาตลาดได้ หรือไม่ก็ไปเทิดทูนคนที่เดาตลาดได้
เอาจริงๆเบื้องหลังของคนที่เราเทิดทูนว่าเป็น "เทพ" ของการเดาทิศทางหุ้น ถ้าเรารู้เบื้องหลังของเค้านะครับจะรู้ว่าได้กำไรจริงๆ น้อยยยยยยยยยยยยยมากเมื่อเทียบกับคนที่ซื้อขายน้อยครั้งมากตลอด 30 ปีที่ลงทุน
อย่าลืมว่ามนุษย์เรามีแนวโน้มที่จะเล่าเฉพาะเรื่องดีๆ เท่ๆ ของตัวเองให้คนอื่นฟังเท่านั้น จะไม่ค่อยเล่าเรื่องห่วยแตกให้คนอื่นฟังหรอกครับ
ความรู้เหล่านี้ ผมเองคงจะไม่ได้มันมาถ้าไม่ตัด "ความหลงตัวเอง" หรือ "EGO ที่คิดว่าเรารู้แล้วเก่งแล้วออกไป"
ปล.อย่าเข้าใจผมผิดนะครับว่าผมหลงตัวเองที่คิดว่าเราไม่หลงตัวเอง การหลงตัวเองมันเป็นสิ่งๆนึงที่เกิดกับผมก่อนหน้านี้เหมือนกันกับมนุษย์ทุกคน ผมเพียงแต่อยากบอกว่า ฟังคนอื่นเยอะๆครับ เพราะผมเองได้ความรู้จากคนที่ดูเหมือนต่ำกว่าเรา (แต่จริงๆสูงส่งกว่าเรา) เยอะมากในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้
#จบแล้ว
คนที่รวยโหดๆหรือ "รวยจริง" ผมว่าขึ้นอยู่กับปริมาณคนที่เค้าใช้งาน
โดยเฉพาะคนที่ใช้งานคนคุณภาพสูงอย่าง CEO ขั้นเทพให้ทำงานให้เค้าได้ (นักลงทุน) กับคนที่ใช้งานคนที่มีคุณสมบัติ "ความเป็นผู้นำ" ให้ช่วยขยายองค์กรได้ (คนทำธุรกิจเครือข่ายที่มีเถ้าแก่หรือผู้นำคนกลุ่มย่อยให้มาตามเรา)
หนังเรื่องทรอยมีพูดถึงตัวละครตัวนึงที่พูดกับอคิลลิสว่า "บางครั้งเราก็ต้องตามคนบางคนเพื่อที่จะนำคนอีกกลุ่มหนึ่งได้ราบรื่น" (อาจจะไม่ได้พูดแบบนี้เป๊ะแต่ก็น่าจะใกล้เคียงทางด้านความหมาย)
เค้าถึงมีคำพูดว่า "ยิ่งเรามีคุณสมบัติความเป็นผู้นำสูงมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เราประสบความสำเร็จจริงๆมากขึ้นเท่านั้น"
#จบแล้วคับวันนี้สั้นหน่อยนึง