Monday, June 29, 2015

ไม่รู้ว่าเราไม่รู้อะไร

ชื่อ blog อาจจะดูตลกแต่มันเป็นคำง่ายๆที่แฝงด้วยธรรมะและปรัชญาชีวิต


ผมโชคดีที่เพื่อนผมชวนเข้าฟังการอบรม course นึงครับ (ขอไม่เอ่ยชื่อ course ละกัน^^) การอบรมนี้สอนเราให้รู้ว่าที่จริงแล้วตัวเราเองกำลังไม่รู้ตัวอยู่รึเปล่าว่า "อะไรเอ่ยที่เรายังไม่รู้?!?"


ถ้าพูดถึงความรู้ทั้งหมดบนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็น กฎหมาย บัญชี การเงิน หรืออะไรก็ตามที่ดูเป็นหัวข้อทางเทคนิก....สุดท้ายผมว่าความรู้ขั้นสุดยอดคือ "ทำยังไงดี จะทำให้เรารู้ตัวว่าตอนนี้เราไม่รู้อะไรอยู่"


มาถึงตรงนี้คนอ่านอาจจะงง....เอางี้!!!   ผมขอโยงเรื่องเพื่อประยุกต์ใช้ "skill" การรู้ว่าเราไม่รู้อะไรกับการลงทุนซักหน่อยครับ


1.ปัจจุบันนี้มีคนที่ถูกยกย่องว่าเป็น "เซียนหุ้น" เยอะครับ....ธุรกิจพวกที่อบรมเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นก็ขายดิบขายดี...สุดท้ายเชื่อผมครับว่าหลักการลงทุนที่ดีที่สุดคือต้องคอย "ยอมรับจากใจจริง" ว่าการลงทุนมันมีเรื่องที่เราไม่รู้อีกเยอะ...อะไรที่ดูแน่อาจยังไม่แน่เลยครับ...บริษัทที่งบสวยก็อาจจะเป็นเพราะ "ตบแต่ง" ก็ได้ (ไม่เว้นแม้แต่บริษัทใหญ่ยักษ์ครับ)


2. เรื่องต่อไปที่ต้องรู้คือ....เอาจริงๆเราไม่รู้หรอกครับว่า "วิธี"  การเล่นหุ้นในแบบที่กูรูสอนเนี่ย มัน work จริงป่าว...เราต้องรู้ไว้เลยว่า  เราไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคนที่สอน เค้าเอาตัวรอดได้จริงรึปล่าวกับตลาดหุ้น...เพราะตั้งแต่ปี2008-2009 ถึงปัจจุบัน(ปี 2015) ตลาดหุ้นมันเป็นขาขึ้นแทบจะตลอดเวลา ดังนั้นการได้กำไรเยอะในช่วงนี้จึงถือว่าไม่แปลก


3. ข้อนี้ข้อสุดท้ายนะครับ....ผมขอพูดถึงการ "cut loss" นิดนึง ตอนหุ้นลงไปจากราคาที่เราซื้อ จะเกิดความรู้สึก 2 ด้านสุดขั้วก็คือ "จะ cut" หรือ "จะถัว" คน cut มองว่ามันจะลงต่อ....ส่วนคนถัวมองว่านี่คือจุดต่ำสุดแล้วล่ะ

ผมขอแชร์วิธีที่ผมคิดละกันครับ..คือส่วนใหญ่ผมดูประเด็นเรื่อง "ความแข็งแกร่ง" ของหุ้นนั้นๆ....ถ้าเราคิดอย่างจริงจังเลยนะครับ(ด้วยเหตุผลนะไม่ใช่อารมณ์) แล้วประเมินว่าหุ้นนั้น "เทพจริง" ก็ตั้ง cut loss ต่ำหน่อยก็ได้ครับ(ต่ำนี่หมายถึงสัก25% ของต้นทุนที่เราซื้อ)  ไม่ใช่ลงแค่ 10% จากต้นทุนแล้วเราก็ cut แล้ว

ส่วนจะถัวไม่ถัวเนี่ยก็รอนิดนึงก็ได้ครับ...รอให้ผงกกลับลำแล้วเราแอบเห็นชัดๆเลยว่านี่คือการ "กลับลำ" และยิ่งตอนเห็นว่ากลับลำแล้วมันมีราคาถูกกว่าทุนเราเยอะเนี่ย...โห!!! ยิ่งเชื้อเชิญให้เราถัวสุดๆครับ^^


ผมเคยคิดว่า VI ต้องไม่ cut loss แต่ถ้าเราเปิดหูเปิดตาตาม "ข่าวสาร" หน่อยนะครับ Buffett เค้ายังตัดขายขาดทุน Tesco ออกไปบ้างเลย อย่าลืมว่าบางครั้งเราไม่รู้ว่านายตลาด(คนส่วนใหญ่) เค้ารับรู้เรื่องบางเรื่องที่เราไม่รู้รึปล่าว หุ้นมันถึงลงอย่างนี้


อ่าน blog นี้แล้วก็อย่าเชื่อผมมากนะครับว่าผมรู้จริง....เวลาอีก 30 ปีต่อจากนี้ต่างหากถึงจะพิสูจน์ได้ครับ!

No comments:

Post a Comment