ตามหัวเรื่องที่ว่านี้ขอเล่าเคสของคน 2 คนสุดโต่งครับ.....
คนหนึ่งมั่นใจสุดขีดกับการที่จะ "ลงทุน" อย่างหนึ่งถึงขนาดที่ว่าจะลาออกเพื่อมาทำมัน
เอาจริงๆนะครับต้องดูเลยว่าเค้า "มั่นใจ" เพราะอะไร................เพราะเห็นคนอื่นลงทุนแล้วมันดี หรือว่า เพราะคนอื่นบอกว่าเค้าน่าจะเหมาะกับธุรกิจนี้ หรือว่า เพราะมั่นใจสุดขีดว่าคู่แข่งไม่เก่งเท่าเราแน่และลูกค้ามาซื้อเราแน่ๆ.......หลายเหตุผลมากจริงๆนะครับ แต่สำหรับผมเองผมมองว่า แต่ละเหตุผลเนี่ยยังไม่โดนสักอันเลยจริงๆ
เอาเฉพาะเหตุผลแรกก็ได้อ่ะ สมมุติลงทุนธุรกิจปุบ มันดันไม่ได้ "ตัง" เหมือนที่คาดหวังไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเค้าก็คือ คนๆนี้ผ่านไปสักพักก็จะโผล่โปรเจคใหม่มาอีกแล้วและพูดว่า "กุว่าโปรเจคอันต่อไปที่กุจะทำต่อจากนี้แหละน่าจะดีกว่าของจริง"
อีกคนหนึ่งที่จะยกตัวอย่างก็กลัวเกินไปนิดนึง (คือมีทุนแต่ใจไม่กล้า ตรงข้ามกับเคสแรกสิ้นเชิง)
หยั่งงี้แหละเลยเกิดเหตุการณ์ "หมาคาบไปแดก" และคนนี้เองก็ไม่ได้ทำอะไรสักที
สรุปจบคือผมว่าการลงทุนมันช่างโหดร้าย สำหรับ "คนใจง่าย" ที่มักจะเห็นว่าสนามหญ้าบ้านข้างๆทำไมเขียวกว่าของตัวเองวะ และโหดร้ายสำหรับ "คนมองโลกในแง่ลบ" ที่ตัดสินใจไม่ลงทุนทำธุรกิจหนึ่งที่อุตส่าห์คิดขึ้นมาได้แล้วแต่กลับไม่ทำมันเพียงเพราะความ negative ของตัวเอง ไม่ใช่ไม่ทำเพราะ เหตุผลจริงว่ามันไม่ work!!!
No comments:
Post a Comment