Friday, November 20, 2015

การพัฒนาตัวเองอย่างโหด....กับวิธีคิดอันแยบยล

"เก่งไม่กลัว....กลัวดื้อมากจนไม่เรียนรู้เพิ่ม" คำพูดคำสอนนี้เหมือนว่าจะง่ายเหลือเกินในทางปฏิบัติ แต่เอาจริงๆ อย่าดูถูกไปว่ามันง่าย....ใครที่ดูถูกและประมาทไป โดยหลงคิดว่า เราเองมีทัศนคติที่ดีมากเพียงพอแล้วในการพัฒนาตัวเอง  เอาจริงๆนะ เพราะความคิดแบบนี้แหละที่พรากความสามารถในการเรียนรู้เพิ่มเติมของเรา


สำหรับผมเองนะครับ....ถ้าผมพูดเองว่าเรามีพัฒนาการเยอะมากจากเมื่อ 5-6 เดือนที่แล้ว ทุกคนและหลายๆคนคงสงสัยว่า ผมขี้โม้เกิ้น แต่เอาจริงๆนะครับ ไม่เชื่อก็ลองถามความเปลี่ยนแปลงของตัวผมเองจากคนที่รู้จักผมเป็นการส่วนตัวเพื่อยืนยันได้เลย


ตัวผมเองยังสงสัยเลยครับว่า คำพูดหรือคำสอน อะไรกันที่อยู่ดีๆ Enlighten เราขึ้นมาเฉยๆเลย งงมาก


ผมคิดสงสัยสิ่งนี้ เพื่อที่จะพยายามถ่ายทอดออกมานะครับ จนคิด "วิธีคิด" ได้ 1 อัน (อาจไม่ใช่แนวคิดทั้งหมดที่พัฒนาตัวผมในช่วง 6 เดือนมานี้ แต่ก็ถือว่าเป็น 1 หัวใจหลักอยู่เหมือนกัน) นั่นก็คือ "ดำรงตนด้วยความไม่ประมาท"


***อย่าประมาทว่าถ้าเราเป็นนักการเมือง เรามีความดีอยู่เต็มประดาเลย จนทำให้เราแตกต่างจากนักการเมืองคนอื่นๆได้ด้วยการ "ไม่คอรัปชั่น" เพราะเราจะแสดงออกด้วยการ "ด่าว่า" การเมืองไทยอยู่นั่นแหละ เป็นต้นเหตุที่ทำให้เราคิดลบในชีวิตเลยนะครับ

***อย่าประมาทที่สิ่งที่เป็นความผิดพลาดของผู้อื่น จะไม่มีวันเกิดกับตัวเอง เพราะการกระทำที่เราแสดงออกจากความประมาทนี้คือ เราจะ "ซ้ำเติม" ความผิดพลาดของคนอื่น แทนที่เราจะ "ให้กำลังใจ"

สุดท้าย อันนี้เจ๋งมากครับคือ อย่าประมาทคิดว่าเรานี่แหละมีความสุขในชีวิตของจริงเลย แม้ว่าเราจะมีรายได้น้อยแค่นี้ ไม่เหมือนคนรวยๆกว่าเราที่ต้องมานั่งเครียดกับธุรกิจ


ความคิดนี้แหละจะทำให้เราไม่กล้า "เสี่ยง" ที่จะเปลี่ยนแปลง หรือ "เสี่ยง" ทำสิ่งต่างๆที่มีแนวโน้มและโอกาสที่จะพัฒนาชีวิตเราได้ (แค่มีโอกาสครับ ไม่ใช่ว่าชัวร์ เพราะมันขึ้นชื่อว่าความเสี่ยง)


ผมพูดตรงๆนะ ถ้าเราเป็นคนประมาทมากๆเลยว่า เราเก่งมากที่คิดพอเพียงเป็น อันนี้แหละที่เสี่ยงที่จะเป็นคน "โลภ"มากกว่าคนอื่นเค้า


ไม่เชื่อลองสังเกตคนที่ บอกว่าพอเพียงกับชีวิต แต่ทำไมถึงคาดหวัง "โบนัส" คาดหวัง "ของกินฟรี" คาดหวัง "การเพิ่มเงินเดือนจากนายจ้าง" มากกว่าได้ล่ะ ถ้าพอเพียงจริงเรื่องพวกนี้เราต้อง "ไม่คาดหวัง" แล้วล่ะครับ


พูดมาซะยืดยาว......ยาวจนบางคนเลิกอ่านถึงบรรทัดนี้ไปแล้วเพราะความที่ "บุญมีแต่กรรมบัง" อ่านมาซะยาว แต่ดั๊นไม่อาจวรรคสุดท้ายนี้วรรคเดียวซึ่งเป็นคีย์เลย.........ยอมรับมาจริงๆเถอะว่า กูแม่งไม่ใช่คนพอเพียงจริงๆเถอะ ถ้ามีคนจะมาให้ 10 ล้านแบบง่ายๆ ก็เอาอยู่ดี "หรือว่าไม่จริงครับ?"


ขอให้คิดยอมรับว่า "เราไม่พอเพียงจริงหรอก" แบบนี้บ่อยๆครับ แล้วเราจะไม่ชักช้าในการพัฒนาตัวเองเสมอๆเลย


ปล.ขออภัยด้วยครับ ผมเองไม่ได้มีเจตนาที่จะยกตัวอย่างเพื่อให้คนส่วนมากยิ่งเข้าใจผิดมากขึ้นว่า นักการเมืองส่วนใหญ่ต้องคอรัปชั่น ขออภัยจากใจจริงครับ


#หลังๆกลับเริ่มอินกับการคิดถึงการพัฒนาชีวิตแบบองค์รวม มากซะกว่าการวางแผนแค่ "การเงิน"

No comments:

Post a Comment