Friday, January 17, 2014

ความจริงที่เกิดขี้นกับเหตุผลที่คนรวยต้องทำบุญ

ผมจะเล่าเหตุการณ์ 3 เหตุการณ์ให้ฟังเพื่อเสริมความเป็นเหตุเป็นผลของหัวข้อเรื่อง

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมาเป็นการยกขึ้นมาจากประสบการณ์ในชีวิตของตัวเอง ผมไม่ได้ต้องการที่จะพาดพิงให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเสียหายหรือขุ่นข้องแต่อย่างใดครับ

เรื่องแรกจะทันสมัยกับเหตุการณ์บ้านเมือง(เดือนมกราคมปี 57)คือเหตุการณ์ที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองปิดถนนที่พวกเราต้องใช้เดินทางไปทำงาน ในเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้เดินทางสัญจรไม่สามารถเดินทางบนท้องถนนได้ทำให้ผู้คนเริ่มใช้รถสาธารณะประเภทรถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT แทน  สถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้ประโยชน์ก็คือรถไฟฟ้าทั้ง 2 เจ้า(คือมีรายได้จากคนขึ้นรถมากขึ้น) เมื่อมีผู้ได้ประโยชน์ผมขอถามครับ มีผู้ใดเสียเงินหรือรายได้บ้างจากเหตุการณ์นี้?? แน่นอนก็คือคนขับรถ Taxi ครับ อันนี้ชัดเจน

เรื่องที่ 2 เป็นการลงทุนในตลาดหุ้น(อันนี้ก็ทันสมัยเหมือนกันเพราะหุ้นลงแรงเหลือเกินในช่วงเดือนมกราคมปี 57) ในตลาดหุ้นจะมีผู้ที่ได้เงินจากการทำกำไรโดยการขายหุ้นโดยมีราคาตลาดสูงขึ้น และในทางกลับกันจะเกิดการขายหุ้นได้สมบูรณ์ต้องมีคนซื้อหุ้นเราไปด้วย ลองนึกภาพว่าหลังจากที่นาย A ซื้อหุ้นที่ 10 บาทพอราคาเป็น 12 บาทนาย A ก็ขายให้นาย B นาย B ถือหุ้นไป 2 วันราคาตกไปเหลือ 10 บาท นาย B ขายตัดขาดทุนกลับมาให้นาย A อีกรอบหนึ่ง(นี่เป็นเพียงเหตุการณ์สมมุติครับ ในตลาดหุ้นนาย A กับ นาย B ไม่ได้ซื้อหุ้นนั้นกันอยู่ 2 คนหรอก)จะเห็นได้ว่าเงินภายในระบบไม่ได้หายไปไหน มันมีอยู่เท่าเดิมนั่นแหละเพียงแต่เงิน 2 บาทถูกโยกจากนาย B มาสู่นาย A เพียงเท่านั้น

เรื่องที่ 3 เป็นการขายระบบป้องกันน้ำท่วม ขอถามหน่อยว่ารัฐบาลจะซื้อระบบนี้หรือไม่ถ้าน้ำไม่ท่วม คำตอบคือไม่ซื้อ สมมุติว่าบริษัทหนึ่งไม่เคยขายระบบป้องกันน้ำท่วมได้เลยหลังจากทำตลาดมาตั้ง 2 ปี แต่พอมาปีหนึ่งเกิดน้ำท่วมใหญ่ บริษัทนี้จึงขายระบบได้อย่างเทน้ำเทท่า ผมถามหน่อยครับเหตุการณ์ครั้งนี้แน่นอนผู้ได้ประโยชน์คือตัวบริษัทเองแล้วผู้เดือดร้อนหรือเสียเงินล่ะมีหรือไม่ คำตอบก็คือประชาชนที่บ้านถูกน้ำท่วมยังไงล่ะ!!

เหตุการณ์ทั้ง 3 เป็นตัวอย่างที่บอกว่าทุกครั้งคนที่รวยที่ได้ผลประโยชน์บางอย่างมักจะได้ประโยชน์นั้นจากความลำบากของผู้อื่นเสมอ ถ้าผู้ใดเคยเรียนวิทยาศาสตร์หรือว่าฟิสิกส์มาก่อนจะเข้าใจคำว่า "กฎการอนุรักษ์พลังงาน" คือพลังงานในระบบปิดหนึ่งๆจะไม่หายไม่ไหนเลย(ต้องขออภัยถ้าพูดถึงกฎนี้ผิดเนื่องจากผู้เขียนเรียนเรื่องนี้มานานแล้วครับ)

ผมเคยเจอคนที่ล้มเหลวในตลาดหุ้นท่านหนึ่งและได้มีโอกาสพูดคุยถึงประสบการณ์ของเขา บุคคลท่านนั้นได้สอนผมว่าคนไม่เคยเจ๊งไม่รู้ความรู้สีกของคนเจ๊งหรอก ท่านผู้นั้นสอนผมอีกว่าจงนำเงินกำไรนั้นคืนสู่สังคมเสมอเพราะมีผู้คนที่ลำบากเพราะเราอยู่ การทำบุญนั้นจะช่วยให้เรารำลึกถึงเขาและช่วยเตือนสติเราได้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อมครับ...

No comments:

Post a Comment